Monthly Promotion: ABCD1234 Lorem ipsum

00:00:00

NAD+ IV บำรุงสมอง ชะลอความชรา ลึกถึงระดับเซลล์

หากคุณกำลังพบเจอกับอาการปวดเมื่อยจากการทำงานมากขึ้น น้ำหนัก เพิ่มขึ้น แม้จะทานเท่าเดิม หลงลืมระยะสั้น ๆ หรือมีอาการ ไม่สบายบ่อย NAD+ IV Therapy ที่ Summer Clinic ช่วยคุณได้ค่ะ ! เพราะโปรแกรมนี้ จะเป็นตัวช่วยในการฟื้นฟูระบบประสาท และการ ทำงานของเซลล์สมอง ช่วยทำให้อายุยืนขึ้น ห่างไกลจากความชรา

ราคา

8,000 ฿/ 1 Vial
14,000 ฿/ 2 Vials
30,000 ฿/ 5 Vials
50,000 ฿/ 10 Vials

หรือเพิ่มเพื่อนผ่าน Line : @Summerclinicphuket และแจ้งบริการที่สนใจกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ

รายละเอียดบริการ

NAD+ IV คืออะไร ?

นักวิทยาศาสตร์ด้านการชะลอวัย ดร.เดวิด ซินแคลร์ ค้นพบว่า NAD+ ซึ่งเป็นโคเอนไซม์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกาย ส่งเสริมให้เกิดการงอกใหม่ และเป็นตัวช่วยผลิตพลังงานให้กับเซลล์ มีปริมาณลดลง จะเป็นการเร่งกระบวนการความแก่ เนื่องจากมีการปิดกั้น การทำงานของโปรตีน Sirtuins ซึ่งเป็นตัวช่วยปกป้อง DNA และควบคุมกระบวนการความแก่ของเซลล์ จึงทำให้เกิดการอักเสบในระดับเซลล์

ในทางกลับกัน หากร่างกายมี NAD+ ในระดับสูง ก็จะข่วยให้ร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น ฟื้นฟูและสร้างพลังงานในเซลล์ ทำให้ช่วยชะลอวัยได้ สุขภาพดี อายุยืนยาว

โปรแกรม NAD+ IV Therapy จึงเป็นทรีทเมนต์ที่คิดค้นขึ้นเพื่อที่จะช่วยเพิ่มระดับของ NAD+ ในร่างกาย ช่วยให้เซลล์ในร่างกายกลับมาแข็งแรง จึงทำให้ได้รับฉายาว่า The Fountain of Youth น้ำพุแห่งความอ่อนเยาว์ โดยทรีทเมนต์นี้เป็นการให้ NAD+ ในระดับสูงทางหลอดเลือดดำเหมือน การทำ IV Drip ทั่วไป ทำให้ NAD+ เข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรง เพื่อซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายอย่างรวดเร็ว ช่วยกระตุ้นการสร้างพลังงาน และกระบวนการฟื้นฟูเซลล์สมอง ทำให้การทำงานของสมองดึขึ้น ลดความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า หรืออารมณ์แปรปรวนได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อ ความจำ และสมาธิอีกด้วย

ประโยชน์ของ NAD+ IV Therapy

  • ช่วยชะลอกระบวนการชราของเซลล์ในร่างกาย คืนความอ่อนเยาว์ ให้แก่ร่างกาย
  • ช่วยเพิ่มพลังงานให้สมอง ทำให้เซลล์สมองทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการสมองอ่อนล้า ช่วยให้ความจำดีขึ้น
  • ช่วยปกป้องระบบประสาท เพิ่มปริมาณสารสื่อประสาท ลดความเครียดในระบบประสาท
  • ช่วยให้หลอดเลือดมีความอ่อนตัว ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น
  • ช่วยเพิ่มการผลิตพลังงานให้กับเซลล์ ทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมดีเอ็นเอได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดการอักเสบภายในเซลล์
  • ช่วยกระตุ้นให้โครโมโซมแข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพพลังงานของร่างกายในการออกกำลังกาย รวมถึงฟื้นฟูส่วนต่างๆ
  • ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย เผาผลาญไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น
nad iv therapy ราคา

คำถามที่พบบ่อย

ดริปวิตามิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ IV Drip (Intravenous Vitamin therapy) เป็นการให้วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่าง ๆ ผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย คล้ายการให้น้ำเกลือ โดยการให้วิตามินด้วยวิธีนี้ จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ทั้งหมด 100% และสามารถแทรกซึมได้ในระดับเซลล์ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยใด ๆ

โดยทั่วไปแล้ว การทำดริปวิตามินเห็นผลได้รวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการรับประทานอาหาร อาหารเสริม หรือวิตามินทั้งแบบเม็ดและละลายน้ำ ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้จริงได้เพียง 20-40% เท่านั้น อีกทั้งการดริปวิตามินนั้นจะไม่ก่อให้เกิดการสะสมหรือตกค้างภายในร่างกาย สามารถถูกขับออกทางระบบขับถ่าย จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

โดยทั่วไป การทำดริปวิตามินจะช่วยในการบำรุงร่างกายจากภายใน บำรุงผิวพรรณ เพิ่มการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ และสามารถลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้

การทำ IV Drip นั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายสูตร ซึ่งแต่ละสูตรนั้นจะมีตัวยาที่แตกต่างกันไป ทำให้คุณประโยชน์ของแต่ละชนิดแตกต่างกันไปเช่นกัน

สำหรับบุคคลทั่วไป การดริปวิตามินนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพร่างกาย หรือมีปัญหาสุขภาพหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสูตรวิตามินที่เลือกใช้

  • ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ
  • ผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้มีสุขภาพดี
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เสริมสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว
  • ผู้ที่มีอาการขาดวิตามิน มีอาการ ปากแห้ง ปากเปื่อย มีแผลที่มุมปาก เบื่ออาหาร ผิวแห้งกร้าน ผิวหนังอักเสบ เส้นผม และเล็บเปราะบางแตกง่าย
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกายอย่างรวดเร็ว และไม่ค่อยมีเวลาดูแลตนเองมากนัก

ผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ ควรระมัดระวังและต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการดริปวิตามินทุกครั้ง

  • หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร
  • ผู้มีประวัติแพ้ยา หรือแพ้วิตามิน
  • ผู้มีโรคประจำตัว และมียาที่ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ เช่น โรคความดันโลหิตต่ำ โรคหัวใจ
  • ผู้เป็นโรคเบาหวาน ไม่สามารถควบคถมระดับน้ำตาลได้ และต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
  • ผู้มีภาวะไตเสื่อม หรือไตวายเรื้อรัง
  • ผู้เป็นโรค G6PD
  • ผู้ที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด
  • ผู้ที่มีอาการไม่สบาย มีไข้สูง หรือมีผื่นแผลบริเวณที่ต้องสอดเข็มเพื่อให้วิตามิน

ผลลัพธ์จากการดริปวิตามินนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละสูตรวิตามิน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความสามารถในการดูดซึมของร่างกาย และการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล

โดยวิตามิน และแร่ธาตุที่เติมเข้าสู่ร่างกายในแต่ละครั้งนั้นจะมีปริมาณค่อนข้างมาก สามารถทำให้คุณรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่หลังการทำในครั้งแรก แต่จะเห็นถึงผลความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้นหลังการดริปวิตามินไปแล้วประมาณ 3-5 ครั้งขึ้นไป โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการดริปวิตามินนั้น จะขึ้นอยู่กับความถี่ในการดริปวิตามินด้วยค่ะ แนะนำให้ทำการดริปวิตามินต่อเนื่องประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้งค่ะ

การทำ ดริปวิตามิน คล้ายกับการฉีดยาหรือให้น้ำเกลือเข้าเส้นทั่ว ๆ ไป โดยส่วนมากตัวยาที่ใช้นั้นจะเป็นวิตามินและแร่ธาตุที่สกัดจากธรรมชาติจึงมีความปลอดภัยสูง และไม่เป็นอันตราย ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณควรเลือกดริปวิตามินที่ได้มาตรฐานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป โดยให้แพทย์ผู้ชำนาญ และมีประสบการณ์ทำการคำนวณปริมาณที่เหมาะสม ตรงตามกับที่สภาพร่างกายต้องการ

โดยคุณควรตรวจสอบมาตรฐานและชื่อเสียงของสถานพยาบาลก่อนเข้ารับการบริการ โดยสถานพยาบาลสำหรับการดริปวิตามินนั้นจะต้องได้มาตรฐานและได้รับการรับรอง รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยผ่านอย.มีการนำเข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง นอกจากนี้ผู้ที่มีข้อต้องระวัง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนการดริปวิตามินนะคะ

หลังจากการรับวิตามินผ่านการทำ drip แล้ว โดยปกติอาจมีรอยแดง หรือเขียวช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ทำการดริปวิตามินขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเองได้ภายใน 1-3 วัน คุณสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยมีข้อปฏิบัติหลังการให้วิตามินเล็กน้อย ดังต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือถูบริเวณที่ทำการดริปวิตามิน
  • งดการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากทั้งสองสิ่งนี้มีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวพรรณ
  • ดื่มน้ำอย่างน้อย 1-2 ลิตร เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณ
  • หากทำการดริปวิตามินผิว ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดที่แรงจัด หรือทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวจากการถูกทำร้ายและป้องกันไม่ให้ผิวกลับมาคล้ำเสียอีก

รีวิวจริงจากลูกค้า

คอร์สแนะนำอื่น ๆ

Energy Booster

Summer Glow

Skinny IV Drip