ฟิลเลอร์คาง
ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ใบหน้ากลม หน้าไม่เรียว เหนียงเยอะ คางสั้น คางทู่ เป็นปัญหาที่ไม่มีใครอยากพบ เพราะทำให้ใบหน้าไม่สมส่วน ไม่เป็นรูปไข่ มักเป็นปัญหาที่เกิดโดยกำเนิด หรือเกิดจากโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วย “การฉีดฟิลเลอร์คาง”ช่วยให้ใบหน้าของคุณสมส่วน เพอร์เฟ็ค มีความสมดุลรับกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
”คางแบบไหนควรฉีดฟิลเลอร์?”
ปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับหลาย ๆ คนคือ ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ใบหน้ากลม หน้าไม่เรียว เหนียงเยอะ คางสั้น คางทู่ ซึ่งอาจเป็นปัญหาโดยกำเนิด หรือเกิดจากโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ได้แก่
- ปัญหาคางสั้นเกินไป เกิดจากส่วนคางนั้นสั้น ไม่ได้สัดส่วนกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า ทำให้รู้สึกหน้ากลม หน้าบาน มีแก้มเยอะ ซึ่งมักเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยกำเนิด ลักษณะกระดูกคางที่สั้น กรามใหญ่ มักพบในคนเอเชีย
- ปัญหาคางเบี้ยว คางเอียง ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน มักเกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมโดยกำเนิด ขากรรไกรล่างที่เอียง เบี้ยว
- ปัญหาคางตัด ใบหน้าดูทื่อ ไม่เรียวยาว มีลักษณะตัด เป็นเหลี่ยม ทำให้ใบหน้าขึงขัง ไม่สดใส มักเกิดจากพันธุกรรม รูปกระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณคางไม่สมส่วน เป็นองศาระนาบกับพื้น
- ปัญหาคางบุ๋ม คางแฉก คางมีลักษณะเหมือนเปลือกส้ม ไม่เรียบเนียน ปลายคางยุบเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแสดงสีหน้า ทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่มีมิติ มักเกิดจากโครงสร้างกระดูกบริเวณคางตั้งแต่กำเนิด หรือโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อมีอายุมากขึ้น
- ปัญหาคางยื่น ขากรรไกรหรือกระดูปลายคางมีความยาวผิดปกติ สังเกตได้ชัดเจนเวลาหันข้าง ทำให้คางยื่นออกมา ใบหน้าไม่สมดุล อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและสุขภาพช่องปากอีกด้วย
ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง โดยปัญหาคางที่ควรใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไข
”ฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร?”
ฟิลเลอร์คาง คือการใช้สารเติมเต็มฉีดเข้าสู่บริเวณคางและขากรรไกรล่าง โดยสารที่นำมาใช้คือ Hyaluronic Acid (กรดไฮยาลูโรนิค) ซึ่งเป็นสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับผิวหนังของมนุษย์เรามากที่สุด มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ฉีดเข้าไปบริเวณคาง เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาบริเวณคาง ทำให้ใบหน้าดูยาว ได้สัดส่วน และสมส่วนกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า เสริมโหงวเฮ้งเพิ่มความมั่นใจได้
โดยสาร Hyaluronic Acid ในฟิลเลอร์นั้นสามารถสลายตัวไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างอยู่ในร่างกาย มีคุณสมบัติคล้ายเจลที่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ มีความคงตัวสูง ช่วยปรับรูปทรงคางให้สวยงาม อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มจุดบกพร่องอวัยวะบนใบหน้าและอวัยวะอื่น ๆ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะเริ่มเกิดการรวมตัวเข้ากับผิวหนัง ดึงดูดโมเลกุลของน้ำจนพองขึ้นเป็นเจล ส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบข้างชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากมีความรู้สึกไม่พึงพอใจหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ทำมาจากสาร Hyaluronic Acid นั้นก็สามารถฉีดสลายได้ทันทีด้วยค่ะ
”ฉีดฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร?”
- ผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางเบี้ยว คางถอย หรือคางบุ๋ม
- ผู้ที่อยากให้ใบหน้าเรียวสวย เป็นรูปไข่
- ผู้ที่อยากมีคางสวยได้สัดส่วน
- ผู้ที่ไม่อยากผ่าตัดเสริมคาง ไม่อยากมีแผล และไม่อยากพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
”ฉีดฟิลเลอร์คาง อยู่ได้นานแค่ไหน?”
The chin filler is solid and highly stable filler. It usually lasts for 1-2 years, depending on the chosen brand. Ensuring the longevity of the filler involves post-injection self-care, following the dermatologist’s recommendations. This may include staying well-hydrated, avoiding facial treatments, and refraining from exposure to heat, all of which contribute to maintaining the filler’s effectiveness over time.
”ฉีดฟิลเลอร์คาง อันตรายไหม?”
หากแพทย์ผู้ฉีดไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักกายวิภาคมากเพียงพอ การฉีดฟิลเลอร์คางอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น เกิดการอุดตันของเส้นเลือด เนื้อตาย เนื้อเน่า คางเน่า หรือปากเน่าได้ หากเกิดพลาดฉีดเข้าเส้นเลือด ดังนั้นคุณควรฉีดฟิลเลอร์คางกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ มีความระมัดระวังเป็นพิเศษเท่านั้น เพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้คุณต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ที่สามารถสลายได้หมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ห้ามฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือซิลิโคนเหลว เพราะสารเหล่านี้จะไม่สามารถละลายออกได้ทั้งหมด เสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อ เนื้อตาย เส้นประสาทถูกทำลาย เป็นอันตรายต่อร่างกายค่ะ
”ฉีดฟิลเลอร์คาง แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร?”
ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์คาง แล้วเกิดอาการบวมเป็นก้อน สามารถเกิดขึ้นได้ หากแพทย์ผู้ฉีดไม่มีประสบการณ์ในการฉีด ไม่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ และเลือกใช้ฟิลเลอร์ผิดรุ่น ไม่เหมาะสมกับบริเวณที่ฉีด
โดยหากเป็นการใช้ฟิลเลอร์แท้ในการฉีด และเกิดอาการบวมเป็นก้อน จะสามารถใช้ยาสลายฟิลเลอร์ที่มีชื่อว่า Hyaluronidaseซึ่งมีลักษณะคล้ายน้ำย่อยธรรมชาติ ฉีดเข้าไปเพื่อสลายกรดไฮยาลูรอนิคบริเวณที่ต้องการแก้ไขได้
”ฉีดฟิลเลอร์คาง หรือผ่าตัดเสริมคาง ดีกว่ากัน?”
การผ่าตัดเสริมคางด้วยซิลิโคน เป็นการเสริมซิลิโคนเข้าไปเพื่อให้คางดูยาวขึ้น อยู่ได้ถาวร โดยสามารถเสริมคางได้มากกว่า 1 เซนติเมตร แต่หากผ่าตัดมาแล้วคางสั้นเกินไป ยาวเกินไป แคบเกินไป หรือไม่เหมาะสมกับรูปหน้า จะแก้ไขได้ยากมาก จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนซิลิโคน โดยการผ่าตัดเสริมคางนั้นจะเห็นผลเต็มที่ใน 1-3 เดือน ต้องใช้เวลาพักฟื้น และอาจเสี่ยงติดเชื้อจากแผลผ่าตัด
ในขณะที่ฟิลเลอร์คางนั้น จะเป็นการเติมเต็มบริเวณขากรรไกรล่างและจุดตรงกลางของคาง ทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ใบหน้าดูยาว และสมส่วนกับอวัยวะอื่น ๆ บนใบหน้า ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังการทำหัตถการ ปลอดภัยต่อร่างกาย สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ เพียงแต่ผลลัพธ์จะได้ 1-2 ปีขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์ ไม่สามารถอยู่ได้ถาวรตลอดไป หากไม่พอใจในผลลัพธ์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
”การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ Summer Clinic ภูเก็ต”
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง คุณควรศึกษาหาข้อมูลและคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยและให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่คุณต้องการมากที่สุดนะคะ
โดยทั่วไปแล้วก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง นั้นไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวมากเป็นพิเศษ แต่ควรทำสิ่งต่อไปนี้
- ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรอยู่
- ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หรือหากมีโรคประจำตัวจะต้องแจ้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ควรรับประทานยาก่อนมาทำหัตถการ
- ควรงดยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยาต้านอักเสบ หรือ NSIADs เช่น Ibruprofen, Diclofenac, และ Ponstan อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์เพื่อป้องการอาการฟกช้ำที่อาจเกิดขึ้น
- ควรงดวิตามินจำพวกเพิ่มการไหลเวียนของเลือด วิตามินที่ละลายในไขมันต่างๆ และกลุ่มสมุนไพรต่างๆ เช่น Grape seed, Gingko biloba, Evening primrose oil, Fish oil, Vitamin E, Collagen อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการทำหัตถการ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชั่วโมงก่อนการทำหัตถการ
”วิธีการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์คาง”
ปกติแล้วอาการหลังฉีดฟิลเลอร์คางที่สามารถเกิดขึ้นได้ คือ มีอาการบวมแดงหรือเจ็บบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยสามารถทำการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำได้ใน 48 ชั่วโมงแรก หากมีอาการบวมช้ำมากขึ้นต้องรีบทำการติดต่อแพทย์โดยทันที
- ทำการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำได้ใน 48 ชั่วโมงแรก หากมีอาการบวมช้ำมากขึ้นต้องรีบทำการติดต่อแพทย์โดยทันที
- งดใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ และวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดยาก
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน และยาต้านการอักเสบ เช่น Ibruprofen และ Naproxen รวมถึงการใช้วิตามินที่ทำให้เลือดหยุดยาก
- หลีกเลี่ยงการจับ นวด คลึง หรือกดบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการกระทบกระแทก การขยับใบหน้าแรง ๆ หลังการฉีด 1-2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก หลังการฉีดฟิลเลอร์ 48 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด หรือความร้อนจัด ๆ เช่น การเข้าซาวน่า อบไอน้ำ เป็นต้น
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 48 ชั่วโมงถึง 1 สัปดาห์
- ควรดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานมากขึ้น
”ฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ไหนในภูเก็ต?”
การฉีดฟิลเลอร์คางนั้นควรฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และต้องรู้จักโครงสร้างกายวิภาคของใบหน้าได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะฉีดสารเติมเต็มอย่างฟิลเลอร์ได้อย่างตรงจุด หากไม่ได้ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อาจทำให้ฉีดผิดพลาดเข้าเส้นเลือด ส่งผลให้เกิดการอุดตันของเส้นเลือดได้ บางรายอาจส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ
ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์คางจึงต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงสถานที่การฉีดฟิลเลอร์ต้องมีความสะอาด ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข และต้องมั่นใจได้ว่าคลินิกใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่าน อย. ที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค
ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงสถานที่การฉีดฟิลเลอร์ต้องมีความสะอาด ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข และต้องมั่นใจได้ว่าคลีนิคใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่าน อย. ที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค
Summer Clinic is a certified aesthetic clinic for face and body in the middle of Phuket town; which is clean, safe, and has experienced and expertise doctors. We use legal imported filler products approved by the FDA so you can be assured of effectiveness and safety. No need to worry at all !
หากคุณสนใจเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ Summer Clinic